ถ้าใครคิดว่าโยเกิร์ตเป็นอาหารที่กินแล้วไม่อ้วน ดูเหมือนว่าเราตกหลุมพรางความอ้วนซะแล้วค่ะ เพราะถ้าลองพลิกอ่านข้อมูลโภชนาการข้างถ้วยโยเกิร์ตทั่วไปดูจะเห็นว่า 1 ถ้วย มีน้ำตาลผสมอยู่มากกว่า 10 กรัม ยิ่งถ้าเป็นโยเกิร์ตผสมผลไม้ยิ่งมีน้ำตาลสูงเกือบ 20 กรัม แสดงว่าโยเกิร์ตไม่ได้เป็นมิตรกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักเลยสักนิด
แต่ช้าก่อน ! อย่าเพิ่งเหมารวมว่าโยเกิร์ตทำให้อ้วนไปซะทั้งหมด เพราะเราก็สามารถเลือกทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติแทนได้ แถมเดี๋ยวนี้มีหลายแบรนด์ผลิตสูตรไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย ออกมาวางขายเอาใจสายเฮลธ์ตี้ด้วย
โยเกิร์ต
ดัชชี่ 0%fat 80 cal / 135 กรัม / น้ำตาล 8 กรัม ข้างกล่องเขียนว่า ลดปริมาณน้ำตาลลง 43% แคลลอรี่ต่ำนะ แต่ให้ความรู้สึกว่าหวานกลมกล่อมกว่าแบบ plain มาก ราคาแพงขึ้น 1 บาท รสอร่อยเลย เนื้อเหลวกว่าเล็กน้อยและมีกลิ่นหอมหวานแบบนม สะดวกและหาทานง่ายได้ตามเซเว่นทุกสาขาค่ะ
กินโยเกิร์ตให้ผอมไว ไม่ใช่แค่การซื้อมากินแล้วหวังว่าน้ำหนักจะลด ยังมีรายละเอียดควรรู้ที่หากเราทำความเข้าใจกับอาหารชนิดนี้ จะพบว่ามีวิธีกินอย่างฉลาดที่ให้ผลลดหุ่นทันใจอยู่ค่ะ
1. อ่านฉลาก ดูน้ำตาลก่อนกิน
เพราะน้ำตาลเป็นสาเหตุหนึ่งของความอ้วน ก่อนซื้อโยเกิร์ตจึงควรคำนึงถึงปริมาณน้ำตาลเป็นอันดับแรก โยเกิร์ตที่วางขายตามท้องตลาด 1 ถ้วย หนัก 140 กรัม มีปริมาณน้ำตาลตั้งแต่ 6 – 27 กรัม หากอ่านฉลากโภชนาการและสังเกตโยเกิร์ตหลากหลายรสชาติให้ดี จะพบว่าโยเกิร์ตรสธรรมชาติมีปริมาณ น้ำตาลต่ำสุด ส่วนโยเกิร์ตที่ปรุงแต่งกลิ่น รสต่างๆ เช่น รสผลไม้ จะมีปริมาณ น้ำตาลสูง
เพื่อความมั่นใจควรเปรียบเทียบ ปริมาณน้ำตาลในโยเกิร์ตก่อนซื้อ โดยอ่าน จากกรอบข้อมูลฉลากโภชนาการข้างถ้วย แนะวิธีอ่านปริมาณน้ำตาลเป็นช้อนชา โดยนำตัวเลขปริมาณน้ำตาลเป็นกรัม หาร ด้วย 5 จะทราบว่าโยเกิร์ตถ้วยนั้นมีปริมาณ น้ำตาลกี่ช้อนชา (คำนวณจากน้ำตาล 1 ช้อนชา หนัก 5 กรัม) เช่น ในฉลาก แสดงปริมาณน้ำตาล 25 กรัม แสดงว่า ในโยเกิร์ตถ้วยนั้นมีปริมาณน้ำตาลมากถึง 5 ช้อนชา
2. เลือกโยเกิร์ตที่มีวิตามินดีสูง
วิตามินดีสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียม ฉะนั้น หากโยเกิร์ตมีแคลเซียมสูง แต่ ร่างกายได้รับวิตามินดีน้อย ร่างกายจึงไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้และทำให้ ไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอที่จะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพให้แก่ระบบเผาผลาญและลดน้ำหนัก
ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาโยเกิร์ตเสริม วิตามินดีเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้บริโภค ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้โดยสังเกตข้อความที่ระบุบนฉลากว่า มีวิตามินดีสูงหรือ วิตามินดีพลัส
แม้ไม่เลือกกินโยเกิร์ตเสริมวิตามินดี ก็สามารถเสริมวิตามินดีเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมได้ง่ายๆ เพียงตื่นแต่เช้า ขยับแขนขารับแสงแดดยามเช้าตั้งแต่เวลา ประมาณ 6.00 น. – 10.00 น. หรือออกกำลังกายรับแสงแดดยามเย็นตั้งแต่เวลา 16.30 น. – 18.00 น. เป็นประจำทุกวัน เท่านี้ก็สามารถเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจาก โยเกิร์ตและอาหารต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น